“..ผมว่าแรงบันดาลใจสำหรับคนเราในทุกๆ วัน คือต้องทำความดี เป็นแรงผลักดันให้ตัวเอง เพราะพอเราให้ เรากลับได้รับพลังบางอย่างกลับมาเยอะมาก..”
![เปิดประวัติไนกี้-นิธิดล ป้อมสุวรรณ พระเอกกล้ามแน่น เชื่อว่าการให้ ได้มากกว่ารับ](https://www.rs.co.th/wp-content/uploads/2020/05/Nike-Nithidol1-1500x1002.jpg)
หลังมีมาตรการผ่อนปรนการทำงานของกองถ่ายภาพยนตร์ และวีดิทัศน์ ในระยะที่ 2 กับสถานการณ์โควิด-19 ออกมา..ในที่สุด..วันนี้ เราก็มีโอกาสได้เจอกับดาราผู้คร่ำหวอดในวงการบันเทิงมากว่า 10 ปี ที่มีทั้งงานถ่ายแบบโฆษณา เดินแบบ เล่นมิวสิควิดีโอ จนมาถึงงานละครโทรทัศน์มากมาย กับพระเอกหล่อล่ำคนนี้ “ไนกี้-นิธิดล ป้อมสุวรรณ” นักแสดงนำในกองถ่ายทำละครเรื่องใหม่ “สะใภ้ไร้ศักดินา” ที่พร้อมจ่อออกอากาศทาง ช่อง 8
ซึ่งแม้ในวันนี้จะมีฉากที่ต้องเร่งรัดถ่ายทำให้เสร็จสิ้นก่อนเวลาเคอร์ฟิว 23 นาฬิกา แต่พระเอกกล้ามแน่นสุดกำยำ ก็ยังปลีกเวลามาเป็นแขกรับเชิญคนพิเศษให้เราสัมภาษณ์อย่างเป็นกันเอง..
![กองละคร"สะใภ้ไร้ศักดินา" นำแสดงโดย "ไนกี้-นิธิดล, จั๊กจั่น อคัมย์สิริ, ตุ๊ก ดวงตา"](https://www.rs.co.th/wp-content/uploads/2020/05/Jakajun-Nike-Tuk-1500x979.jpg)
ย้อนเส้นทางและประวัติของไนกี้ นิธิดล ก้าวเข้ามาในวงการบันเทิงได้อย่างไร
“จริงๆ ต้องบอกว่าจับพลัดจับผลูมากกว่า เหมือนดวงนำพามา เพราะจริงๆ ตอนแรกตัวเองอยากสอบนายร้อย อยากรับใช้ชาติ เป็นทหาร ตำรวจ สุดท้ายสอบไม่ติด พลิกผันมีแมวมองมาเจอเราตอนช่วงมัธยม และจังหวะเราจะมีสิทธิ์สอบอีกแค่ปีเดียว ช่วงนั้นเหมือนชีวิตหันเห เหมือนทุกอย่างถูกดึงเข้ามาทางวงการบันเทิง กลับกลายเป็นเบนเข็มว่าสิ่งที่อยากจะเป็น อยากจะทำ แต่อะไรที่มันไม่ใช่ ก็คือไม่ใช่ แล้วจู่ๆ วงการบันเทิงเป็นสิ่งที่เราไม่เคยคิดว่าจะมายืนอยู่ตรงนี้ จะมาเป็นไนกี้ ตั้งแต่โฆษณาตัวแรก ที่ถ่ายแค่รูป แล้วเราก็ได้โฆษณาเลย เหมือนอะไรที่จะเป็นของเรามันจะง่ายมาก ง่ายไปหมด ซึ่งโฆษณาชิ้นแรกนั่นแหละที่ทำให้เปลี่ยนชีวิตเรา มีทั้งงานเดินแบบ งานโฆษณา งานถ่ายแบบเข้ามาเรื่อยๆ จนเราเริ่มรู้สึกสนุกกับมันครับ หนึ่งคือ เราสามารถหาเลี้ยงครอบครัวได้ในขณะที่เรากำลังเรียนอยู่ หรือเวลาอยากได้อะไรก็ซื้อได้โดยไม่ต้องรบกวนพ่อแม่ รู้สึกว่าก็ดีเหมือนกัน..”
“..แต่ตอนนั้นก็ยังไม่ได้รู้เป้าหมายของตัวเองว่าอยากเป็นนักแสดง แค่รู้สึกสนุกเหมือนเด็กคนหนึ่งที่เริ่มทำงานได้ สามารถเอาเงินให้พ่อแม่ได้ด้วย สามารถที่จะซื้อของก็ได้ จุดเปลี่ยนจริงๆ คือตอนเริ่มมาเล่น MV มากกว่า ทำให้เริ่มชัดขึ้น มีเรื่องของอารมณ์คล้ายๆละคร MV เปิดซิงตัวแรกเลยเป็นของ RS คือ พี่Notto (น็อตโตะ) ในเพลง เพื่อนคนสุดท้าย ได้ พี่โด่ง-องอาจ นี่แหละกำกับ ถือว่าเป็นจุดเริ่มต้นของโอกาสดีๆ ว่าการที่เราได้เล่น MV เป็นเหมือนกำลังใจให้คน เราเคยเดินอยู่บนรถไฟฟ้า เราคิดว่าไม่มีใครรู้จักเรานะ แต่มีคนเดินมาพูดว่าดู MV ที่เราเล่นแล้วรู้สึกว่ามันเป็นกำลังใจให้เค้า เราก็เลยรู้สึกว่า เออ จริงๆ เหมือนกับเราเป็นผู้ให้ บางทีเราให้อะไรเค้าไม่ได้ แต่เราให้ความสุขเค้าได้ ก็เป็นจุดหนึ่งที่ทำให้เราชอบวงการบันเทิงครับ”
![เปิดประวัติ “ไนกี้-นิธิดล ป้อมสุวรรณ” พระเอกสุดหล่อ เคยฝันอยากเป็นทหาร ตำรวจ](https://www.rs.co.th/wp-content/uploads/2020/05/Nike-Nithidol2-1002x1500.jpg)
ที่บอกว่าอยากเป็นทหาร ตำรวจ เพราะอะไร
“มันเป็นความฝันตั้งแต่สมัยประถม ที่คุณครูให้เด็กทุกคนพูดหน้าห้องว่าโตขึ้นอยากเป็นอะไร บางคนอยากเป็นหมอ อยากเป็นโน่นนี่ แต่เรารู้สึกว่า เราอยากเป็นทหาร ตำรวจ เราอยากไปสู้กับโจรผู้ร้าย อยากปกป้องประเทศชาติ ก็เลยทำให้เราฝังใจตั้งแต่นั้นมา และประจวบเหมาะกับที่บ้านก็สนับสนุนให้รับราชการ เป็นทหารตำรวจ ก็เลยทำให้เราอยากที่จะทำตามความฝันให้สำเร็จ แต่สุดท้าย สิ่งที่เราชอบสิ่งที่เราตั้งใจก็ไม่ได้ สอบตั้งหลายปีก็ไม่สำเร็จ เราเคยเห็นบางคนที่ขีดเส้นมาทางนี้ มันก็ได้สำหรับเค้า ทั้งๆ ที่เราก็เห็นว่าเค้าหลับไปตั้งแต่ต้นชั่วโมงเรียน แต่เค้าสอบได้ เราเลยเชื่อคำนี้ว่า อะไรที่ใช่ มันก็คือใช่จริงๆ”
![“ไนกี้-นิธิดล ป้อมสุวรรณ” พระเอกหล่อร่างกำยำ เผยชอบทุกบทบาทการแสดง](https://www.rs.co.th/wp-content/uploads/2020/05/Nike-Nithidol3-1002x1500.jpg)
เล่นละครมาเยอะมาก ชอบบทบาทไหนมากที่สุด
“ต้องบอกว่าชอบทุกบทบาทนะครับ เพราะเรารักมัน รักทุกการแสดง ไม่ว่าเราจะเล่นเป็นอะไร เรารู้สึกว่าเราได้แสดง และเราก็ไม่รู้ว่า เราจะได้มีโอกาสทำแบบนี้อีกนานมั้ย หรือว่าวันไหนอาจจะเกิดเหตุการณ์พลิกผันกับเราก็ได้ เราก็รู้สึกว่าเราทำมันให้ดีที่สุด เราก็เลยชอบกับทุกๆ บทบาทที่เราแสดง เราเต็มที่กับมัน เพราะเราโตมากับการที่เราไปเรียนการแสดงเอง ซึ่งก็มีครูท่านหนึ่งสอนไว้ว่า เรามาเป็นนักแสดงแล้วเราต้องรักในการแสดง และเต็มที่กับทุกๆ บทบาทที่ได้รับ เราก็เลยรู้สึกว่า ใช่! ไม่ว่าเราจะได้เล่นเป็นอะไรก็ตามแต่เราก็ทำให้มันเต็มที่ นั่นแหละคือนักแสดงครับ”
“..อย่างละครเรื่องล่าสุด สะใภ้ไร้ศักดินา ที่กำลังถ่ายทำตอนนี้ ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่งที่พลิกบทบาท ได้เล่นเป็นแนวทั้งดราม่า คอมเมดี้ด้วย รู้สึกสนุกกับอีกรูปแบบหนึ่ง อีกผลงานหนึ่งที่เรากำลังจะสร้างสรรค์มันออกมา และนักแสดงทุกคนก็เต็มที่ เราก็เลยรู้สึกว่าอยากให้ผู้ชมได้ดู ได้ติดตามเร็วๆ เหมือนกัน เนื้อหามีอะไรที่สอนคนดูด้วย ทั้งมุกตลก คลายเครียด ส่วนเรื่องคาแรคเตอร์ ถ้าเทียบแล้วผมว่า ตัวอาชา (พระเอก) เป็นคนทะเล้น กะล่อน ขี้เล่น ทีเล่นทีจริงอยู่ตลอดเวลา ชอบแอบขี้น้อยใจ แต่มีความกวน ซึ่งไม่ได้เหมือนตัวตนเราเท่าไหร่ครับ” หนุ่มไนกี้ นิธิดลกล่าว
![“ไนกี้-นิธิดล ป้อมสุวรรณ” ยังคิดไม่ตก ถ้าไม่ได้เป็นดารา จะทำอาชีพอะไร](https://www.rs.co.th/wp-content/uploads/2020/05/Nike-Nithidol4-1500x1002.jpg)
ถ้าวันนี้ไนกี้ นิธิดล ไม่ได้เป็นดารานักแสดง คิดว่าจะทำอาชีพอะไร
“จริงๆ ผมเรียนจบวิทยาศาสตร์คอมพิวเตอร์นะครับ แต่ก็ไม่แน่ใจว่า ตัวเองยังจะเอาวุฒิไปสอบเป็นข้าราชการอยู่ หรือยังจะไปทำเกี่ยวกับโปรแกรมเมอร์หรือเปล่า ก็ไม่รู้เหมือนกันครับ คิดไม่ออกว่าตัวเองจะไปทางไหน เพราะตั้งแต่ที่เราหันเหมาทางวงการบันเทิง ก็ทำให้เราไม่เคยคิดเรื่องอื่นเลย เราคิดว่าทำทุกวันให้ดีที่สุดเท่านั้นครับ”
![“ไนกี้-นิธิดล ป้อมสุวรรณ” ฝากแรงบันดาลใจให้แฟนละคร](https://www.rs.co.th/wp-content/uploads/2020/05/Nike-Nithidol5-1002x1500.jpg)
ไนกี้ นิธิดล ฝากแรงบันดาลใจในการทำงานให้กับแฟนคลับ แฟนละคร
“ผมว่าแรงบันดาลใจสำหรับคนเราในทุกๆ วัน คือต้องทำความดี รู้สึกว่าการทำดี เป็นแรงผลักดันให้ตัวเอง พอเราให้เค้าแต่เรากลับได้รับพลังบางอย่างกลับมาเยอะมาก อย่างช่วงโควิด-19 ที่ผ่านมาผมก็ได้ไปบริจาคสิ่งของ บริจาคเลือด อย่างเลือดเราถุงหนึ่ง สามารถช่วยคนได้ 1 ชีวิต หรือการให้สิ่งของ หรือเงินทอง เราก็รู้สึกว่า สิ่งที่เราให้ไปเค้าอิ่มท้อง มันทำให้เราอิ่มใจ บางครั้งเงินก็ไม่ได้สำคัญสำหรับชีวิตเราขนาดนั้น เพราะคนเราทุกคนตายไป ก็เอาอะไรไปไม่ได้ แต่การที่เราพอจะมีแล้วเป็นผู้ให้ทำให้เราเหมือนยิ่งให้ยิ่งได้ สิ่งที่ได้รับกลับมาอาจไม่ใช่เงินทอง แต่เป็นการได้รับพลังงานที่ดีๆ กำลังใจที่ดีๆ กลับมา และอีกอย่างที่อยากฝากคือ ไม่อยากให้ทุกคนมีความเครียด ขอให้ทุกคนมีกำลังใจ และมีสติเยอะๆ เพราะบางคนอาจเครียดจนคิดสั้นฆ่าตัวตาย ก็ขอให้มีสติ ค่อยๆ คิด เพราะยังมีคนที่พร้อมจะยื่นมือช่วยเหลือคุณอีกเยอะ ประเทศไทยเป็นประเทศที่มีคนดีเยอะมาก ผมเชื่ออย่างนั้นครับ”