Back

“โอห์ม ฐิติวัฒน์ ช่อง 8” สุดภูมิใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งใน RS Group ที่แข็งแรง

ส่งต่อข่าวนี้
  • Facebook
  • Twitter
  • Line
  • Copy Link

“เรา Rebranding จากธุรกิจค่ายเพลง กับช่อง 8 เราก็ได้เห็นการแตกกิ่งก้านสาขาผสานกับธุรกิจพาณิชย์ จนเป็น Entertainmerce ความรู้สึกตอนนี้ ผมดีใจนะครับได้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของ RS ที่แข็งแรงมาตลอด”

ประวัติ ดาราช่อง 8 โอห์ม ฐิติวัฒน์ ฤทธิ์ประเสริฐ
ดาวรุ่งหนุ่มหล่อ “โอห์ม-ฐิติวัฒน์ ฤทธิ์ประเสริฐ”

ถ้าหากทุกคนได้มาพบเจอกับแขกรับเชิญคนพิเศษของเราในวันนี้  ก็คงจะมีความรู้สึกเดียวกันว่าชายหนุ่มวัย 20 กว่าๆ ที่นั่งอยู่ตรงหน้านี้ ไม่ได้มีเพียงแค่หน้าตาหล่อเหลาระดับดาราเกาหลีเท่านั้น หากแต่มีความคิดบุคลิกภาพ และทัศนคติการดำเนินชีวิต รวมถึงมีแรงผลักดันมุ่งมั่นในการทำงานที่พร้อมจะพัฒนาตัวเองได้อย่างน่าชื่นชมอย่าง “โอห์ม-ฐิติวัฒน์ ฤทธิ์ประเสริฐ” ดารา-นักแสดงที่ทั้งแจ้งเกิดเป็นดาวรุ่งพุ่งแรงจากช่อง 8 และยังเป็นแฟนพันธุ์แท้ของ RS ตั้งแต่ยุคปี 2000 พร้อมทั้งเห็นปรากฏการณ์วัฒนธรรมทางสังคมหลายๆ อย่างที่ RS เป็นผู้ริเริ่ม ตั้งแต่ธุรกิจวงการบันเทิง จนถึง Entertainmerce ด้วยการทำงานที่ไม่เคยหยุดนิ่ง และไม่ยึดติดกับกรอบเดิมๆ วันนี้ “โอห์ม-ฐิติวัฒน์”จึงรู้สึกภูมิใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งขององค์กรที่แข็งแกร่ง และเติบโตอย่างต่อเนื่องอย่าง RS Group

ประวัติ โอห์ม ฐิติวัฒน์ ดาราช่อง8 และเส้นทางสู่วงการบันเทิง
“โอห์ม-ฐิติวัฒน์ ฤทธิ์ประเสริฐ”

เส้นทางในวงการบันเทิงของโอห์ม ฐิติวัฒน์ และประวัติที่น่าสนใจ

หนุ่มโอห์ม ฐิติวัฒน์ กล่าวว่า “จริงๆ เส้นทางในวงการบันเทิงเริ่มมาตั้งแต่เด็กแล้วครับ พอดีที่บ้านทำงานเกี่ยวกับด้านสื่อ ก็เลยสนับสนุนเรามาตลอด อาจจะด้วยความที่ตัวเราเป็นคนขี้อาย ไม่ค่อยกล้าแสดงออกตั้งแต่เด็กๆ เค้าก็เลยอยากฝึกเราให้กล้าแสดงออก หากิจกรรมให้ทำ เช่น ถ่ายโฆษณา ถ่ายโน่นนี่นิดๆ หน่อยๆ พอโตมาถึงจุดหนึ่งที่เข้าไปประกวดเดินแบบ ก็ได้เป็นนายแบบตอนอายุประมาณ 15-16 ปี จนช่วงอายุ 18 ปี ก็มาประกวดเวที Asia New Star Model Contest Face of Thailand 2016 ของช่อง 8 แล้วได้รางวัลชนะเลิศ ก็ได้ไปประกวดต่อที่ประเทศเกาหลีใต้ ได้รางวัลพิเศษกลับมา”

“ทางผู้ใหญ่ของ RS ก็เลยเล็งเห็น และอยากให้ลองมาเทสต์หน้ากล้อง ลองแคสติ้ง จนได้เซ็นสัญญาเป็นดาราในสังกัด ก็มีโอกาสได้เรียนการแสดงเพิ่มเติม ส่วนละครเรื่องแรกที่ได้เล่นคือ ใจลวง เล่นกับพี่ฟลุค-จิระ, พี่ยีนส์-เกวลิน ส่วนคู่ของผมคือ พี่ฟ้าใส-อรจิรา จนพัฒนาตัวเองมาเรื่อยๆ ส่วนตอนนี้ก็มีเรื่อง ภูตรัตติกาล ทาง ช่อง 8 เป็นละครแนวแอคชั่น-แฟนตาซีที่เพิ่งเริ่มจะได้กลับมาถ่ายทำอีกครั้งหลังสถานการณ์โควิด-19 เรื่องนี้ผมได้เล่นเป็น ผาเมือง พระรองที่คอยเป็นมือขวาช่วยพระเอก โอม-อัชชา นามปาน ส่วนนางเอกคือ เบนซ์-ปุณยาพร พูลพิพัฒน์ ซึ่งเป็นเรื่องแรกที่ได้บทบู๊หนักมาก ถือเป็นการเปิดประสบการณ์ใหม่เลยครับ ผมต้องไปฝึกการต่อสู้ให้สมจริงมากที่สุด เพราะด้วยสรีระเราจะตัวโย่งๆ จะมีเทคนิคยังไงไม่ให้ดูเก้งก้างด้วยครับ”

โอห์ม ฐิติวัฒน์ ฤทธิ์ประเสริฐกล่าวถึงไอดอลในวัยเด็กของเขา
“โอห์ม-ฐิติวัฒน์ ฤทธิ์ประเสริฐ”

โอห์ม ฐิติวัฒน์โตมากับ RS ในช่วงไหน มีใครเป็นไอดอล

“ผมเป็นคนชอบฟังเพลงอยู่แล้วครับ อย่างเพลงของ RS ผมจะรู้จักในรุ่นของ Kamikaze, TEN-ELEVEN(1011) หรือ พี่ฟิล์ม-รัฐภูมิ ก็ฟังส่วนที่ชอบมากที่สุดตอนเด็กๆ เลยคือ พี่แดน-บีม ชอบฟังเพลงของพี่ๆ เค้ามากครับ ถือว่าเป็นไอดอลในดวงใจของผมเลย แต่ส่วนตัวผมเองเคยร้องเพลงประกอบละคร ใจลวง แต่ยังไม่เคยมีซิงเกิ้ลเดี่ยวเลย

ผมอาจจะไม่ได้เป็นสายร้องเพลงที่เก่งมากมายนะครับ แต่ถ้ามีโอกาสก็อยากจะพัฒนาตัวเองในส่วนนี้เหมือนกัน รู้สึกว่าเราต้องทำให้ได้เหมือนพี่ๆ ครับ อยากพัฒนาตัวเองให้มีความสามารถที่รอบด้านมากที่สุดเท่าที่เราจะทำได้ ทั้งเดินแบบ ทั้งเล่นละคร และร้องเพลงก็ได้ด้วยครับ” โอห์ม ฐิติวัฒน์ ฤทธิ์ประเสริฐ อธิบายต่อ

โอห์ม ฐิติวัฒน์ ฤทธิ์ประเสริฐและมุมมองต่อ RS ในปัจจุบัน
“โอห์ม-ฐิติวัฒน์ ฤทธิ์ประเสริฐ”

ในมุมมองของคนรุ่นใหม่ RS เมื่อวันวานกับวันนี้ ต่างกันอย่างไร

“ในฐานะที่โตมากับ RS ในช่วงหนึ่ง ก็เห็นถึงความเปลี่ยนแปลงนะครับ เรารีแบรนด์จากธุรกิจบันเทิงและสื่อ มีค่ายเพลง กับทีวีดิจิตัล ช่อง 8 เราก็ได้เห็นการแตกกิ่งก้านสาขาขยายธุรกิจ และผสานเข้ากับธุรกิจพาณิชย์ จนเป็น Entertainmerce ความรู้สึกตอนนี้ ผมดีใจนะครับได้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของ RS ที่แข็งแรงมาตลอด ไม่ว่าจะเป็น เฮียฮ้อ-สุรชัย เชษฐโชติศักดิ์ หรือพนักงานในบริษัท จะมีการพัฒนาอยู่ตลอดเวลา เราก้าวไปต่อได้ไม่ว่าจะอยู่ในสถานการณ์ไหน เพราะเราทำงานเป็นทีม มีอะไรเราก็สามารถมานั่งคุยกันว่าอยากได้ตรงไหนเพิ่มอะไรยังไง ให้ก้าวเดินและโตไปด้วยกันครับ และผมเชื่อมั่นอีกอย่างหนึ่งว่า ในอนาคต RS จะยิ่งเติบโตต่อไปเรื่อยๆ สำหรับตัวเราที่อยู่ ณ จุดนี้ เราก็จะยิ่งเติบโตไปพร้อมๆ ด้วยเป้าหมายเดียวกันครับ”

โอห์ม ฐิติวัฒน์ ฤทธิ์ประเสริฐ กับเหตุผลในการเซ็นสัญญากับ RS
“โอห์ม-ฐิติวัฒน์ ฤทธิ์ประเสริฐ”

ทำไมถึงเลือกเซ็นสัญญาสังกัด RS

“ด้วยความที่เรามั่นใจว่า ถ้าเราได้เป็นศิลปิน นักแสดงในสังกัดนี้แล้ว เชื่อมั่นว่า RS จะสามารถดึงศักยภาพในตัวเราออกมาได้มากกว่านี้ เพราะอย่างที่บอก เมื่อก่อนผมเป็นคนขี้อาย ไม่ค่อยกล้าแสดงออก เป็นคนพูดน้อย ส่วนหนึ่ง RS เป็นบริษัทที่ก่อตั้งมานาน และปรับตัวเองไปตามสถานการณ์ได้เรื่อยๆ ผมก็ยิ่งมั่นใจว่า ผมจะพัฒนาตัวเอง พร้อมเปลี่ยนแปลงตัวเองเป็นคนใหม่ จนประสบความสำเร็จในวงการบันเทิง และเติบโตไปพร้อมกับ RS ได้เช่นกันครับ” ดาราหนุ่มช่อง 8 โอห์ม ฐิติวัฒน์ ฤทธิ์ประเสริฐ กล่าวอย่างภาคภูมิใจ

โอห์ม ฐิติวัฒน์ ฤทธิ์ประเสริฐ ดาราช่อง8และเป้าหมายในอนาคตของเขา
“โอห์ม-ฐิติวัฒน์ ฤทธิ์ประเสริฐ”

โอห์ม ฐิติวัฒน์วางเป้าหมายในชีวิตอย่างไรในอนาคต

โอห์ม ฐิติวัฒน์ ดาราหนุ่มช่อง 8 กล่าวว่า“ถ้าพูดถึงเป้าหมายในระยะใกล้ๆ ก็คือมีแพลนอยากร้องเพลง มีซิงเกิ้ล อยากมีมีทติ้งร่วมกับแฟนคลับ อยากเจอกัน อยากมอบความสุขให้แฟนๆ แต่ช่วงนี้ ก็ยังติดช่วงโควิด-19 อยู่ ก็อาจจะรอสถานการณ์ดีขึ้นก่อน นอกจากนี้ ก็อยากจะพัฒนาตัวเองในด้านต่างๆ มากกว่านี้ ทั้งเรื่องฝีมือการแสดงให้ดีที่สุด ในส่วนที่เรายังบกพร่อง เช่นเรื่องฝึกการพูด บางทีก็คิดเล่นๆ ว่าอยากลองเป็นผู้ประกาศข่าว แต่จะทำยังไงให้เราพูดได้แบบเค้า คิดแก้ไขสถานการณ์เฉพาะหน้าได้ดีแบบเค้า ก็ต้องพัฒนาตัวเองไปก่อนจนกว่าเราจะมีคุณสมบัติพร้อม ค่อยว่ากันอีกทีครับ”

“ส่วนในอนาคตข้างหน้า ผมอยากทำงานด้านสายการบิน เพราะผมชอบเกี่ยวกับเครื่องบิน พื้นฐานครอบครัวคือคุณแม่ทำงานอยู่คิงพาวเวอร์ในสนามบิน และปลูกฝังเรามาตลอดเกี่ยวกับอาชีพในสายธุรกิจการบิน เราก็ลองศึกษาหาข้อมูล แม้จะไม่ได้เรียนมาโดยตรง แต่ก็มีความฝังใจว่า สักวันหนึ่งเราต้องเป็นให้ได้ครับ ซึ่งคุณแม่เองก็อยากให้เราเป็นลูกเรือ แต่ผมอยากเป็นนักบิน เป็นความฝันของเด็กผู้ชายคนหนึ่ง แต่ผมเพิ่งเรียนจบด้านสื่อสารมวลชน สาขากราฟิกดีไซน์ เป็นคนละสายงานเลยกับด้านวิศวกรรมการบิน แต่เราก็ตั้งใจจะเรียนเพิ่มเติมต่อไปครับ”

โอห์ม ฐิติวัฒน์ ฤทธิ์ประเสริฐและแรงจูงใจในการทำงานของเขา
“โอห์ม-ฐิติวัฒน์ ฤทธิ์ประเสริฐ”

“ผมพยายามสร้างแรงจูงใจตัวเองให้มีเป้าหมายตลอดเวลา เพราะถ้าชีวิตเราเดินแบบไม่มีจุดหมาย เราจะไม่รู้ว่าเราใช้ชีวิตทุกวันนี้ไปเพื่ออะไร อย่างตอนนี้ เราทำงานเป็นนักแสดง เราก็ต้องทำให้ดีที่สุด อย่าเหยาะแหยะทำไปงั้นๆ เดี๋ยวก็ได้เงินแล้ว เพราะเราไม่ได้ทำเพื่อเงินอย่างเดียว แต่เราทำแล้วมีความสุข ทำแล้วเลี้ยงตัวเอง เลี้ยงคุณพ่อคุณแม่ได้ ซึ่งท่านก็สบายใจที่เห็นลูกดูแลตัวเองได้ ลูกส่งเงินมาให้ ถึงท่านจะไม่ได้อยากใช้ แต่ท่านก็ภูมิใจที่สุดแล้วครับ”