“หลี่แช-วิยดา พีรรัฐกุล” กับ Passion เป็น “นักเล่าเรื่อง” ไม่ใช่ผู้ประกาศข่าว

ส่งต่อข่าวนี้
  • Facebook
  • Twitter
  • Line
  • Copy Link

แรงบันดาลใจแชคือ ในแต่ละวันแชจะใช้ ‘วิธีการเล่าแบบไหน’ ให้ข่าวที่เหมือนกันทุกช่อง แต่ฟังเราแล้ว เล่าง่าย ดูง่าย เข้าใจง่าย บนจรรยาบรรณสื่อสารมวลชน

หลี่แช วิยดา

หลี่แช-วิยดา พีรรัฐกุล รายการคุยข่าวเช้ารุ่งอรุณ และรายการคุยข่าวเช้า ช่อง 8

 

แต่เดิมเราอาจคุ้นเคยกับบุคลิกภาพบทบาทของผู้ประกาศข่าวที่ดูขึงขังเป็นทางการ อ่านออกเสียงตามสคริปต์อย่างถูกอักขระชัดเจน หากแต่ผู้ประกาศข่าวสาวสวยอย่าง หลี่แช-วิยดา พีรรัฐกุล ที่เราได้พบเจอเธอในหน้าจอช่อง 8 ทุกเช้าวันจันทร์ถึงอาทิตย์ ตั้งแต่รายการคุยข่าวเช้ารุ่งอรุณ เวลา 04.30 น. ตามด้วยรายการคุยข่าวเช้า ช่วง 06.00 น. กลับมีสไตล์การอ่านข่าวแบบเล่าเรื่องง่ายๆ ให้คนดูเข้าใจ ด้วยลีลาท่าทางที่เข้าถึงผู้คน จนเราต้องขอสัมภาษณ์ถึงแนวคิดและเส้นทางสายอาชีพแวดวงข่าวของสาวสวยคนนี้

 

อะไรคือแรงบันดาลใจ ของ คุณหลี่แช ที่ทำให้เลือกเดินทางในสายงานสื่อสารมวลชน?

“จุดเริ่มต้นในอาชีพผู้ประกาศข่าว คือ ‘ความท้าทาย’ ค่ะ แชเริ่มต้นกับโจทย์ที่ว่า ‘แชอยากแตกต่างในแวดวงผู้ประกาศข่าว’ แชมีนิยามบทบาทตัวเองคือ ‘นักเล่าเรื่อง’ คือไม่ใช่แค่มาอ่านข่าว แต่เรามีวิธีการเล่าเรื่องแบบใหม่ๆ แรงบันดาลใจคือ แชจะใช้ ‘วิธีการเล่าแบบไหน’ ให้ข่าวที่เหมือนกันทุกช่อง แต่ฟังเราแล้ว เล่าง่าย ดูง่าย เข้าใจง่าย บนจรรยาบรรณสื่อสารมวลชน แชไม่ใช่ผู้ประกาศข่าวแบบอนุรักษ์นิยม ที่มีหน้าที่แค่นำเสนอข่าว อ่านไปตามบท วางสีหน้าท่าทางและบุคลิกแบบฉบับที่ผู้ประกาศแต่เดิมควรเป็น”

 

หลี่แช-วิยดา พีรรัฐกุล ผู้ประกาศข่าวสาวสวย

 

Passion ในฐานะผู้ประกาศข่าวแถวหน้าของ ช่อง 8?

“การเล่าข่าว ในมุมมองของแช คือ การนำเสนอบนข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น แต่จะใช้วิธีการเล่าแบบมีสีสัน เล่นอารมณ์และท่าทางประกอบด้วยลีลาแบบเรา เพื่อจูงใจให้คนอยากฟังและสนใจฟังข่าวมากขึ้น แชต้องเข้าใจข่าวบนข้อเท็จจริง แล้วเล่าแบบ storytelling ที่ไม่ใช่อ่านตามบท ที่สำคัญต้อง ครอบคลุม เข้าถึง รอบด้าน และเป็นธรรม แชจะใส่มุมมองที่มาจากความคิดเห็นหรือข้อมูลที่อ้างอิงได้ เพิ่มเติมในข่าวให้คนดูได้ประโยชน์มากกว่าแค่รายงานเหตุการณ์ จากที่แต่เดิมจะมีคนบอกว่าผู้ประกาศไม่ควรเพิ่มเติมความเห็น แชถึงนิยามตัวเองว่าเป็น ‘นักเล่าเรื่อง’ ไม่ใช่ผู้ประกาศข่าว ซึ่งคนดูก็ตอบรับจนเป็นภาพจำให้ช่อง 8 และจำตัวตนเราได้มากขึ้น”

 

อยากให้เล่าความประทับในการทำงานที่ช่อง 8 ในเครือ RS GROUP มากว่า 9 ปี?

“ปีหน้า 2565 แชจะอยู่ RS ครบ 10 ปี ที่นี่ให้โอกาสหลายๆ อย่าง ให้แชได้คิดและออกแบบเอกลักษณ์การเล่าข่าวโดยอิสระ เป็นอิสรภาพทางความคิดที่ ช่อง 8 ไว้วางใจให้แชทำ ซึ่งจริงๆ แล้ว เฮียฮ้อ คือคนที่จุดประกายให้เกิดความแตกต่างในวงการข่าว ว่าผู้ประกาศข่าวไม่จำเป็นต้องมีบุคลิกเป็นทางการ แต่ต้องเล่าข่าวง่าย ดูง่าย เข้าใจง่าย ซึ่งต้องหาคนที่รู้เรื่องข่าวแต่เล่าสนุกมาจัดรายการ ตัวเลือกนั้นเลยมีชื่อ หลี่แช วิยดา โผล่มา และเฮียก็ให้อิสระกับแช ได้ออกแบบวิธีการเล่า และปรับปรุงตามคำแนะนำติชมจากคนดูมาโดยตลอด จนทุกวันนี้ก็ลงตัวบนความพอดีแบบที่เห็น”

 

คุณหลี่แช มีเป้าหมายในชีวิตการทำงาน วางแผนอนาคตอย่างไร?

“แชมีโจทย์ในทุกๆ วันว่า ‘แชจะเล่าข่าวให้มีประโยชน์กับคนดูให้มากที่สุดได้อย่างไร?’ เพราะต้องยอมรับว่าข่าวทุกวันนี้ บางข่าวไร้สาระแต่ต้องนำเสนอบนความเป็นกระแส และบางอย่างถูกชี้วัดด้วย Rating ว่าคนดูชอบข่าวประมาณนี้ เช่น ข่าวหวย ข่าวผี ซึ่งโดยส่วนตัวแชไม่ค่อยเห็นด้วยกับข่าวประเภทนี้ แต่เราทำงานเป็นทีม เมื่อโค้ชกำหนดแผนมาให้เล่น เราในฐานะกองหน้าก็ทำตามแผนไป หน้าที่เราคือ ทำยังไงให้ข่าวนั้นมีประโยชน์กับคนดู ซึ่งแชได้ใช้ความรู้จากที่ศึกษาปริญญาเอกพระพุทธศาสนา ในมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย นั้นมาอธิบายให้ข่าวมีคุณค่าขึ้นได้ เช่น เตือนสติและนำปัญญา ในแง่มุมตามหลักธรรมคัมภีร์นำมาประกอบการเล่าเรื่อง ส่วนเป้าหมายวันข้างหน้า แชไม่ได้มองอะไรไว้ไกลๆ แค่อยากทำทุกวันให้มันดีพอในแบบที่พอดี”

หลี่แช-วิยดา พีรรัฐกุล นักเล่าเรื่องมือ 1

ฝากถึงน้องๆ รุ่นใหม่ที่มีฝันอยากเป็นผู้ประกาศข่าวนักเล่าเรื่องคนเก่งเหมือนพี่หลี่แช

“ทุกวันนี้แชสอนนักศึกษาปริญญาตรีนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยกรุงเทพอยู่นะคะ แชแนะนำน้องๆ เรื่องศิลปะการพูด การเล่าทุกข่าวให้มีคุณค่ามีประโยชน์ มองผลกระทบของคนในข่าวให้รอบด้าน ไม่ใช่เพื่อเอา Rating แต่ต้องนึกถึงใจเขาใจเราของคนในข่าวด้วยจรรยาบรรณวิชาชีพ หรือการนำเสนอในฐานะสื่อเพื่อประชาชน กรณีข่าวโควิดและวัคซีน เพราะเสียงเราดังกว่าเสียงประชาชนตาดำๆ สิ่งที่ต้องคำนึงให้มาก คือการใช้สติและปัญญาการเล่าเรื่อง เราไม่ได้อยู่ในฐานะสร้าง ‘ความเป็นกลาง’ เพราะตรงกลางไม่ได้มีอะไรเป็นตัวชี้วัด แต่เราอยู่ในฐานะ ‘สร้างความเป็นธรรม’ ให้เกิดขึ้นได้ เพราะความเป็นธรรมชี้วัดได้จากการที่ทุกคนต้องมีสิทธิ์ได้พูดบนความเท่าเทียม แล้วเราทำหน้าที่เป็นสื่อเพื่อความเป็นธรรมนั้น”

“สุดท้ายแล้ว สื่อยุคใหม่กำลังเปลี่ยนไปในทุกวัน แชไม่ได้มองว่าตัวเองจะเล่าข่าวอยู่หน้าจอทีวีแบบนี้ไปได้ตลอด  แต่แชมั่นใจว่าวันข้างหน้า สื่อในมือแช ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบ Social Media หรือ Metaverse ก็ตาม แชจะทำหน้าที่ในทุกสื่อด้วยเป้าหมายเดียวกันคือ ‘เท่าทันมันและมีประโยชน์’ คนติดตามเราจะมากหรือน้อยไม่ได้สำคัญ เพราะแชไม่ได้มองมันที่ปริมาณ แต่มองมันที่คุณภาพมากกว่า”